วันอังคารที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2560

บันทึกการเรียนครั้งที่ 1
วันพุธ ที่ 11 มกราคม พ.ศ 2560

เนื้อหาที่เรียน  ความรู้ที่ได้รับ

- เด็กที่มีความต้องการพิเศษ (Children with special needs )
- เด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ ( Early Childhood with special needs )

ความหมายของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ


1. ทางการแพทย์ มักจะเรียกเด็กที่มีความต้องการพิเศษว่า “เด็กพิการ”
หมายถึง  เด็กที่มีความผิดปกติ มีความบกพร่อง สูญเสีย สมรรถภาพ อาจเป็นความผิดปกติ ความบกพร่องทางกาย การสูญเสียสมรรถภาพทางสติปัญญา ทางจิตใจ
2. ทางการศึกษา ให้ความหมายเด็กที่มีความต้องการพิเศษว่าหมายถึง  เด็กที่มีความต้องการทางการศึกษาเฉพาะของตัวเอง ซึ่งจำเป็นต้องจัดการศึกษาให้ต่างไปจากเด็กปกติทางด้านเนื้อหา หลักสูตร กระบวนการที่ใช้ และการประเมินผล

สรุปได้ว่าเด็กที่มีความต้องการพิเศษหมายถึง

  • เด็กที่ไม่อาจพัฒนาความสามารถได้เท่าที่ควรจากการให้การช่วยเหลือ และการสอนตามปกติ
  • มีสาเหตุจากสภาพความ บกพร่องทางร่างกาย สติปัญญา และอารมณ์
  • จำเป็นต้องได้รับการกระตุ้น ช่วยเหลือ การบำบัด และฟื้นฟู
  • จัดการเรียนการสอนที่เหมาะกับลักษณะ และความต้องการของเด็กแต่ละบุคล
พฤติกรรมและพัฒนาการ ของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ

พัฒนาการ
  • การเปลี่ยนแปลงในด้านการทำหน้าที่และวุฒิภาวะของอวัยวะต่างๆรวมทั้งตัวบุคคล 
  • ทำให้สามารถทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ
  • จำเป็นต้องได้รับการกระตุ้น ช่วยเหลือ การบำบัด และฟื้นฟู
  • จัดการเรียนการสอนที่เหมาะกับลักษณะ และความต้องการของเด็กแต่ละบุคล
พฤติกรรมและพัฒนาการ ของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ

พัฒนาการ
  • การเปลี่ยนแปลงในด้านการทำหน้าที่และวุฒิภาวะของอวัยวะต่างๆรวมทั้งตัวบุคคล 
  • ทำให้สามารถทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ
  • เด็กที่มีพัฒนาการล่าช้ากว่าเด็กปกติในวัยเดียวกัน
  • พัฒนาการล่าช้าอาจพบเพียงด้านใดด้านหนึ่ง หลายด้าน หรือทุกด้าน 
  • พัฒนาการล่าช้าในด้านหนึ่งอาจส่งผลให้พัฒนาการในด้านอื่นล่าช้าด้วยก็ได้

ปัจจัยที่มีผลต่อพัฒนาการเด็ก
  • ปัจจัยทางด้านชีวภาพ 
  • ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมก่อนคลอด     
  • ปัจจัยด้านกระบวนการคลอด      
  • ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมหลังคลอด 

สาเหตุที่ทำให้เกิดความบกพร่องทางพัฒนาการ
1. พันธุกรรม
  •   เด็กจะมีพัฒนาการล่าช้ามาตั้งแต่เกิดหรือสังเกตได้ชั่วระยะไม่นานหลังเกิด  มักมีลักษณะผิดปกติแต่กำเนิดร่วมด้วย 
Cleft Lip / Cleft Palate

ธาลัสซีเมีย


 2. โรคของระบบประสาท
  •  เด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการส่วนใหญ่มักมีอาการหรืออาการแสดงทางระบบประสาทร่วมด้วย  
  • ที่พบบ่อยคืออาการชัก 

3. การติดเชื้อ 
  • การติดเชื้อตั้งแต่อยู่ในครรภ์ น้ำหนักตัวแรกเกิดน้อย ศีรษะเล็กกว่าปกติ อาจมีตับม้ามโต การได้ยินบกพร่อง ต้อกระจก
  • นอกจากนี้การติดเชื้อรุนแรงภายหลังเกิด เช่น สมองอักเสบ เยื้อหุ้มสมองอักเสบ เป็นสาเหตุที่พบได้บ้าง

4. ความผิดปกติเกี่ยวกับเมตาบอลิซึม
  •  โรคที่ยังเป็นปัญหาสาธารณสุขไทย คือ ไทรอยด์ฮอร์โมนในเลือดต่ำ

5. ภาวะแทรกซ้อนระยะแรกเกิด
  • การเกิดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวแรกเกิดน้อย และภาวะขาดออกซิเจน

6. สารเคมี
  • ตะกั่วเป็นสารที่มีผลกระทบต่อเด็กและมีการศึกษามากที่สุด
  • มีอากาศซึมเศร้า เคลื่อนไหวช้า ผิวดำหมองคล้ำเป็นจุดๆ 
  • ภาวะตับเป็นพิษ
  • ระดับสติปัญญาต่ำ

แอลกอฮอล์

  • น้ำหนักแรกเกิดน้อย
  • มีอัตราการเพิ่มน้ำหนักหลังเกิดน้อย ศีรษะเล็ก
  • พัฒนาการของสติปัญญาก็มีความบกพร่อง
  • เด็กบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์

Fetal alcohol syndrome, FAS
  • ช่องตาสั้น  
  • ร่องริมฝีปากบนเรียบ
  • ริมฝีปากบนยาวและบาง  
  • หนังคลุมหัวตามาก
  • จมูกแบน
  • ปลายจมูกเชิดขึ้น

อาการของเด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ

  • มีพัฒนาการล่าช้าซึ่งอาจจะพบมากกว่า 1 ด้าน
  • ปฏิกิริยาสะท้อน (primitive reflex) ไม่หายไปแม้จะถึงช่วงอายุที่ควรจะหายไป 
  • แนวทางการวินิจฉัย เด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ

1. การซักประวัติ
  • โรคประจำตัว โรคทางพันธุกรรม 
  • การเจ็บป่วยในครอบครัว 
  • ประวัติฝากครรภ์  
  • ประวัติเกี่ยวกับการคลอด      
  • พัฒนาการที่ผ่านมา     
  • การเล่นตามวัย การช่วยเหลือตนเอง   
  • ปัญหาพฤติกรรม    
  • ประวัติอื่นๆ

เมื่อซักประวัติแล้วจะสามารถบอกได้ว่า
  • ลักษณะพัฒนาการล่าช้าเป็นแบบคงที่ หรือถดถอย
  • เด็กมีระดับพัฒนาการช้าหรือไม่ อย่างไร อยู่ในระดับไหน
  • มีข้อบ่งชี้ว่ามีสาเหตุจากโรคทางพันธุกรรมหรือไม่
  • สาเหตุของความบกพร่องทางพัฒนาการนั้นเกิดจากอะไร
  • ขณะนี้เด็กได้รับการช่วยเหลือและฟื้นฟูอย่างไร

2. การตรวจร่างกาย
  • ตรวจร่างกายทั่วๆไปและการเจริญเติบโต
  • ภาวะตับม้ามโต 
  • ผิวหนัง
  • ระบบประสาทและวัดรอบศีรษะด้วยเสมอ
  • ดูลักษณะของเด็กที่ถูกทารุณกรรม (child abuse)
  • ระบบการมองเห็นและการได้ยิน

3. การสืบค้นทางห้องปฏิบัติการ
4.การประเมินพัฒนาการ
  • การประเมินแบบไม่เป็นทางการ
  • การประเมินที่ใช้ในเวชปฏิบัติ
  • แบบทดสอบ Denver II 
  • Gesell Drawing Test 
  • แบบประเมินพัฒนาการเด็กตามคู่มือส่งเสริมพัฒนาการเด็กอายุแรกเกิด - 5 ปี สถาบันราชานุกูล 


การประเมินผล

ประเมินตนเอง : ตั้งใจเรียนในขณะที่อาจารย์สอนและตอบคำถามทุกครั้ง
ประเมินเพื่อน : เพื่อน ๆ ตั้งใจเรียนและไม่คุยกันในเวลาเรียน
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์เตรียมการสอนมาดีมาก การเรียนเป็นไปอย่างเป็นลำดับขั้นตอน มีเทคนิคการสอนที่น่าสนใจ สามารถอธิบายและยกตัวอย่างให้นักศึกษาได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น






















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น